ตั้งแต่โควิด-19 ระบาดมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้มีแม่ค้าพ่อค้าออนไลน์ขายของกันเยอะมาก บางคนก็ผันตัวจากหน้าร้านมาเป็นออนไลน์กันหมด บ้างก็เริ่มอยากเป็นแม่ค้าออนไลน์มือใหม่ ต้องบอกก่อนว่าการขายของออนไลน์เป็นเรื่องที่ต้องวางแผนให้ดี รอบคอบตั้งแต่เริ่ม จนไปถึงการส่งของ การส่งของก็เป็นเรื่องที่สำคัญมาก วันนี้ businessucenter.com เลยอยากแนะนำ 5 เทคนิคส่งพัสดุเอาใจลูกค้า ฉบับแม่ค้าออนไลน์มือโปร มาฝากสำหรับใครที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจขายของออนไลน์
5 เทคนิคส่งพัสดุเอาใจลูกค้า ฉบับแม่ค้าออนไลน์มือโปร
1.ชี้แจงรายละเอียดการจัดส่งพัสดุ
เริ่มต้นด้วยการชี้แจงรายละเอียดการส่งสินค้าเบื้องต้นให้เรียบร้อย เพราะอาจจะเกิดปัญหาบางอย่างที่เราตกหล่นได้ เพราะว่าการชี้แจงรายละเอียดจะเหมือนเป็นการทำข้อตกลงระหว่างเรากับลูกค้า ถ้าไม่สะดวกที่จะพิมพ์ทางร้านควรมีพื้นที่ในการให้ลูกค้าเห็นข้อตกลง ชี้แจงเช่น อาจทำเป็นไฮไลท์สตอรี่ในอินสตาแกรม ทำโพสต์ปักหมุดในเฟซบุ๊ก หรือทำเป็นข้อความอัตโนมัติในไลน์ออฟฟิเชียว สิ่งที่ควรชี้แจง เช่น
- ช่องทางการสั่งสินค้า DM/Inbox/Website/Line MyShop
- ช่องทางการชำระเงินมีแบบไหนบ้าง?
- ตัวเลือกการจัดส่งสินค้า ลงทะเบียน/EMS/ขนส่งอื่น ๆ
- ระบุค่าจัดส่งให้ชัดเจน
- ช่องทางติดตามพัสดุ (เลข Tracking)
นอกจากนั้น หากเป็นร้านพรีออเดอร์ ควรบอกระยะเวลาการรอสินค้า เช่น 7-10 วัน หรือ 15-30 วันหลังปิดรอบ หรือถ้ามีข้อกำหนดอื่น ๆ ของร้านค้า ก็ควรแจ้งให้ลูกค้าทราบ
2. การเลือกกล่องพัสดุ
สิ่งที่สำคัญรองลงมาคือ กล่องพัสดุ กล่องที่มีไว้แพคสินค้าต้องเลือกแบบที่เหมาะสมกับ สินค้าของเรา ทั้ง ขนาด และรูปแบบของกล่อง ขนาดของกล่องพัสดุควรจะใหญ่กว่าสินค้าเล็กน้อย เพื่อให้วางสินค้าได้พอดีและมีที่เหลือสำหรับอุปกรณ์กันกระแทก แต่กล่องพัสดุต้องไม่ใหญ่เกินไป เช็กง่าย ๆ คือ หากใส่สินค้าหุ้มบับเบิลและอัดด้วยกันกระแทกแล้ว เมื่อเขย่ากล่อง ของข้างในต้องไม่เคลื่อนที่ หากของยังเคลื่อนที่ได้แปลว่ากล่องอาจจะใหญ่เกินไป ควรเปลี่ยนขนาดหรือเพิ่มอุปกรณ์กันกระแทก
นอกจากเลือกขนาดกล่องให้เหมาะสม ควรเลือกประเภทของกล่องให้เหมาะสมกับสินค้าด้วยเช่นกัน สำหรับสินค้าทั่ว ๆ ไป เช่น อาหารแห้ง แก้ว แจกัน หนังสือ ต้นไม้ เครื่องสำอาง ก็จัดส่งในกล่องกระดาษหรือกล่องไปรษณีย์ได้เลย แต่ถ้าเป็นสินค้าชิ้นเล็ก เช่น เครื่องประดับ เคสโทรศัพท์ โปสการ์ด สติกเกอร์ ควรเลือกใช้เป็นซองบับเบิล จะได้ไม่ต้องเปลืองกล่อง แถมค่าจัดส่งยังถูกกว่าอีกด้วย
3.เทคนิคการห่อพัสดุ
สิ่งสำคัญอีกหนึ่งข้อคือ การห่อสินค้า หรือการห่อพัสดุ เราควรคำนึงถึงความเสียกายของสินค้าเราเป็นอันดับแรก เพราะฉะนั้นควรเลือกอุปกรณ์กันกระแทกให้ดี ซึ่งส่วนใหญ่จะนิยมใช้บับเบิ้ลหรือแผ่นรองกันกระแทก การห่อบับเบิ้ลแนะนำให้ห่อหุ้มที่ตัวสินค้าซัก 2-3 ชั้น ติดเทปบนบับเบิ้ลให้เรียบร้อยก่อนใส่ลงในกล่อง แต่หากเป็นสินค้าแตกง่ายหรือของมีคม ก็เพิ่มรอบบับเบิ้ลให้หนาขึ้น และอาจห่อกล่องพัสดุชั้นนอกด้วยบับเบิ้ลอีกครั้งเพื่อความปลอดภัย
สิ่งสำคัญในการห่อพัสดุ คือ ของข้างในกล่องต้องไม่เคลื่อนที่ อย่างที่บอกว่าควรเลือกขนาดกล่องให้พอดีกับสินค้าและความหนาของบับเบิ้ล แต่ในกรณีที่กล่องมีขนาดใหญ่กว่า แนะนำให้วางสินค้าเอาไว้ตรงกลาง แล้วยัดโฟมตัวหนอน กระดาษหนังสือพิมพ์ หรือแกนกระดาษทิชชูเอาไว้รอบ ๆ เพื่อยึดสินค้าให้อยู่กับที่ป้องกันการเสียหายระหว่างทาง
4.การจ่าหน้าซอง
การจ่าหน้าซอง ต้องคำนึงอันดับแรก เพื่อให้ถึงมือลูกค้าอย่างถูกต้อง การจ่าหน้าซองในปัจจุบันจะไม่เน้นการเขียนแล้ว แต่ก็ส่วนน้อยที่ยังเขียน แต่ในความสะดวกของแม่ค้าคือ เขาจะพิมพ์ที่อยู่จัดส่งแล้วปริ้นแปะลงบนกล่องพัสดุ จะได้ไม่ต้องกังวลกับลายมือ แถมยังสะดวกและช่วยประหยัดเวลาได้มากกว่า และที่สำคัญ ต้องใส่ที่อยู่และเบอร์โทรของผู้ส่งทุกครั้ง เผื่อกรณีฉุกเฉิน ลูกค้าไม่อยู่รับของ หรือขนส่งไม่สามารถติดต่อลูกค้าได้ พัสดุจะได้ตีกลับถูกที่ ไม่กลายเป็นพัสดุที่หายสาปสูญ
5.อย่าลืมแจ้ง Tracking Number
มาถึงขั้นตอนสุดท้ายหลังจากทำการส่งของให้ลูกค้าแล้ว ใบเสร็จที่ได้มาอย่าเพิ่งทิ้งเด็ดขาด เพราะในใบเสร็จจะมีเลขเทรคกิ้ง (Tracking Number) ของพัสดุแต่ละชิ้น ซึ่งเอาไว้สำหรับเช็กสถานะและติดตามการเดินทางของพัสดุ ว่า ณ วันนี้ เวลานี้ พัสดุถึงไหนอย่างไรบ้าง ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต้องไม่ลืมที่จะแจ้งเลขเทรคกิ้งนี้ให้ลูกค้าแต่ละคนรับรู้ ลูกค้าจะได้ทราบสถานะของสินค้าที่สั่งไป และเป็นการการันตีความโปร่งใสให้ร้านค้าออนไลน์ได้อีกทาง
การแจ้งเลขเทรคทำได้ทั้งการสร้างตารางใน Google Sheet พิมพ์ข้อมูลของลูกค้า พร้อมด้วย Tracking Number ให้ลูกค้าเข้ามาเช็กเลขพัสดุของตัวเอง หรือในกรณีที่ออเดอร์ไม่เยอะมากจะส่งเลขเทรคแยกในช่องแชทส่วนตัวให้ลูกค้าก็ได้ แต่ไม่ว่าจะทำแบบไหน ขอให้ชี้แจงเป็นรายละเอียดช่องทางการเช็กเลขเทรคกิ้งให้ลูกค้ารับทราบก่อนด้วยนะคะ
เป็นไงกันบ้างคะแม่ค้ามือใหม่ทั้งหลาย ง่ายนิดเดียวกับ 5 เทคนิคส่งพัสดุเอาใจลูกค้า ฉบับแม่ค้าออนไลน์มือโปร แค่นี้ก็สามารถสร้างความประทับใจ ให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้ากับเราอีกแน่นอนค่ะ
แนะนำ 3 สูตรอาหารเกาหลีโฮมเมด ความอร่อยที่ทำเองได้เหมือนต้นตำรับ
ปัจจุบันมีอาหารมากมายให้เราได้เลือกกินกัน ซึ่งอาหารที่ยังคงยอดฮิต ไปที่ไหนก็สามารถหากินอาหารชนิดนี้ได้ นั้นก็คืออาหารเกาหลี ซึ่งแต่ละร้านนั้นก็เรียกว่าขายดิบขายดีกันเลยทีเดียว ซึ่งใครขี้เกียจต่อคิวกินที่ร้านก็ทำกินเองได้ง่าย จะมาแนะนำ 3 สูตรอาหารเกาหลีโฮมเมด ความอร่อยที่ทำเองได้เหมือนต้นตำรับ ซึ่งแต่ละเมนูนั้นก็ทำแสนง่าย และอร่อยอีกด้วย ตามมาดูกันว่าเมนูไหนบ้าง
